วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ประเทศที่น่าไปศึกษาต่อที่สุดในโลก



ค้นหาคำตอบว่าทำไมสก็อตแลนด์จึงเป็นประเทศที่น่าไปศึกษาต่อที่สุดในโลก …
หนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาดีเยี่ยมที่สุดในโลก
ประเทศแรกในโลกที่มีการจัดตั้งระบบการศึกษาของรัฐ ที่สหรัฐและฝรั่งเศสนำไปเป็นแม่แบบ
ดินแดนในฝันเพื่อการพัฒนาภาษาอังกฤษ
งานวิจัยล้ำหน้า อัตราส่วนผลงานวิจัยตีพิมพ์ต่อประชากรสูงกว่าอังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น และเยอรมัน
เต็มไปด้วยเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป บรรยากาศนานาชาติและเป็นมิตร
แผ่นดินที่อุดมไปด้วยกลิ่นไอแห่งประวัติศาสตร์ นักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์ และศิลปินชื่อก้องโลก
โอกาสในการทำงานหลังจบการศึกษา ด้วย Fresh Talent Scheme





-->

สก็อตแลนด์ ดินแดนแห่งโอกาสทางการเรียนรู้และประสบการณ์ชีวิตอันไม่รู้ลืม

สก็อตแลนด์เป็นประเทศเล็กที่ยิ่งใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยประชากรเพียงห้าล้านคน แต่ทว่าชาวสก็อตนั้นกลับผลิตผลงานต่างๆที่มีประโยชน์มหาศาลต่อชาวโลกได้อย่างมากมาย นับตั้งแต่กลจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์ ที่ก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมและทำให้สหราชอาณากลายเป็นเจ้าอาณานิคม ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ของ อดัม สมิธ ที่ฝังรากอยู่ในระบบเศรษฐกิจจนกระทั่งปัจจุบัน ยาปฏิชีวนะของอเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง ที่ช่วยชีวิตมนุษย์ได้นับล้าน ปรัชญาแห่งยุคแสงสว่างของเดวิด ฮูม ทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าของแม็กซ์เวล รวมไปถึงงผลงานวิจัยสมัยใหม่อย่างแกะดอลลี่ ฯลฯ ล้วนแต่ถือกำเนิดขึ้ิ้นในสก็อตแลนด์
ผู้คนส่วนมากมักจะจินตนาการว่าสก็อตแลนด์เป็นเพียงท้องทุ่งและทะเลสาบอันกว้างใหญ่ แต่โดยความเป็นจริงแล้วสก็อตแลนด์มีเมืองที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในยุโรป เอดินเบอระเป็นเมืองศูนย์กลางการเงิน Top5 ของยุโรป และเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับสองของ UK รองจากลอนดอน กลาสโกว์เป็นเมืองอุตสาหกรรมอันดับสามของสหราชอาณาจักร ในขณะที่อเบอร์ดีนนั้นเป็นศูนย์กลางน้ำมันทะเลเหนือของยุโรป นอกจากนี้ สก็อตแลนด์ยังเป็นประเทศแรกในโลกที่มี Public Education System มีมหาวิทยาลัยเก่าแก่มากมาย และมีอัตราส่วนงานวิจัยต่อประชากรสูงที่สุดติดอันดับหนึ่งในสามของโลก ร่วมค้นหาคำตอบว่าทำไมสก็อตแลนด์จึงเป็นดินแดนที่น่าไปเรียนต่อที่สุดแห่งหนึ่งในโลกกับเรา แมคดูเคชั่น – สถาบันส่งเสริมการศึกษาต่อสก็อตแลนด์ ด้วยความสนันสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล และพี่ๆศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ทั้งเรียนและทำงานในสก็อตแลนด์

ไม่มีความคิดเห็น: